หมายเหตุสำคัญ!
เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการคลิกที่ ‘ตกลง’ คุณได้ยอมรับการใช้คุกกี้ของเราตามที่อธิบายไว้ใน นโยบายคุกกี้
สัปดาห์นี้ตลาดการเงินโลกจะให้ความสำคัญกับการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ใช้ประกอบการตัดสินใจนโยบายการเงิน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความตึงเครียดทางการค้าที่อาจทวีความรุนแรง นอกจากนี้ นักลงทุนยังต้องติดตามผลการเลือกตั้งในเยอรมนีที่อาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายการคลังของสหภาพยุโรป รวมถึงการประชุมธนาคารกลางในเอเชียที่มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในบทความนี้ เราจะวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า พร้อมประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาดการเงินและการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างเหมาะสม
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568
วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้และนัยยะต่อนโยบายการเงินเอเชีย ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 2.75% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากการส่งออกที่อ่อนแอและการบริโภคภายในประเทศที่ลดลง การตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกและได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ นักลงทุนควรติดตามท่าทีของธนาคารกลางต่อความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของสกุลเงินและภาวะเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวขึ้น
ข้อมูล GDP สหรัฐฯ และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ การปรับประมาณการ GDP ไตรมาส 4/2567 ของสหรัฐฯ มีความสำคัญต่อการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน ตลาดคาดการณ์การปรับเพิ่มจาก 2.3% เป็น 2.5% สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น อาจส่งผลให้ Fed ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ
ดัชนีราคา PCE และทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ การประกาศดัชนีราคา PCE เดือนมกราคมเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดของสัปดาห์ โดยคาดการณ์ว่า Core PCE จะอยู่ที่ 2.7% YoY สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของ Fed ที่ 2% หากตัวเลขออกมาสูงกว่าคาด อาจทำให้ตลาดปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าและกดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยง
ผลการเลือกตั้งเยอรมนีและผลกระทบต่อนโยบายยุโรป ผลการเลือกตั้งในเยอรมนีจะส่งผลต่อทิศทางนโยบายการคลังและความเชื่อมั่นในยูโรโซน หากพรรคการเมืองหลักไม่สามารถรักษาเสียงข้างมากสองในสามได้ อาจส่งผลต่อการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปฏิรูปโครงสร้าง ซึ่งจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปและค่าเงินยูโร
สัปดาห์ที่จะถึงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดการเงินในระยะถัดไป โดยมีปัจจัยหลักที่นักลงทุนควรพิจารณาและเตรียมความพร้อมดังนี้
ด้านนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน การประกาศดัชนี PCE ของสหรัฐฯ จะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญต่อทิศทางนโยบายการเงินของ Fed ในขณะที่ธนาคารกลางในเอเชียมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างภูมิภาคนี้จะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชีย นักลงทุนควรติดตามท่าทีของธนาคารกลางและเตรียมรับมือกับความผันผวนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านเศรษฐกิจและการเมือง ตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัว สะท้อนความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในขณะที่ผลการเลือกตั้งในเยอรมนีจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในยูโรโซน นักลงทุนควรติดตามพัฒนาการทางการเมืองในยุโรปอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการคลังและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ข้อแนะนำสำหรับนักลงทุน