ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเลเวอเรจในการเทรด
ข้อดีของการเทรด CFD คือการช่วยให้ทุกคนสามารถลงทุนและกระจายรายได้ของตัวเองได้ แม้ว่าจะมีเงินทุนเพียงเล็กน้อยก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่าคุณสามารถเทรดโดยใช้เลเวอเรจ ซึ่งเป็นตัวคูณที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในตลาดและผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นได้ นี่เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ! ในปัจจุบันมีการเทรดหลายพันล้านครั้งทั่วโลกเนื่องจากความยืดหยุ่นและการเข้าถึงการเทรด แต่จริง ๆ แล้วการเทรดด้วยเลเวอเรจคืออะไร?
ความสำคัญของความเข้าใจเกี่ยวกับเลเวอเรจสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
เทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดเรื่องเลเวอเรจ เพื่อให้สามารถจัดการโพซิชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถจัดการความเสี่ยงได้ด้วย เลเวอเรจทำหน้าที่เป็นตัวคูณ ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์สามารถยืมเงินเพิ่มจากเงินทุนเริ่มแรกได้ และเพิ่มอำนาจในการเทรด ดังนั้นคุณมีเลเวอเรจที่จะทวีคูณเงินทุนของคุณและช่วยให้คุณสามารถซื้อขายโพซิชั่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ แต่ต้องมีข้อจำกัด นี่คือที่มาของมาร์จิ้น เลเวอเรจมอบโอกาสให้เทรดเดอร์ทุกคนได้เพิ่มศักยภาพสูงสุดของตน
มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทราบว่าเลเวอเรจสามารถเพิ่มได้ทั้งกำไรและขาดทุนได้ ซึ่งทำให้มือใหม่ต้องเริ่มต้นด้วยการใช้บัญชีเดโม สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับพลังของเลเวอเรจ และเรียนรู้ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ บัญชีเดโมมีสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงในการฝึกการเทรดด้วยเลเวอเรจ ซึ่งช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์อันมีค่าโดยไม่ต้องเสี่ยงกับเงินทุนจริง
เลเวอเรจมีการทำงานอย่างไรในการเทรด
เรามาแสดงตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจว่าเลเวอเรจและมาร์จิ้นทำงานอย่างไรในการเทรด ลองจินตนาการดูว่าคุณมีเงิน $1,000 ในบัญชีเทรดของคุณและต้องการเทรดฟอเร็กซ์
ด้วยอัตราส่วนเลเวอเรจ 1:100 คุณสามารถควบคุมขนาดโพซิชั่นที่มีมูลค่า $100,000 ได้ ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังเทรดโดยใช้เลเวอเรจ เนื่องจากคุณกำลังควบคุมโพซิชั่นที่ใหญ่กว่าเงินทุนเริ่มต้นของคุณอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังหมายความว่าคุณกำลังเทรดด้วยมาร์จิ้น มาร์จิ้นคือจำนวนเงินที่คุณต้องกันไว้เพื่อเปิดและรักษาโพซิชั่นที่มีเลเวอเรจ ในกรณีที่ใช้อัตราส่วนเลเวอเรจ 1:100 มาร์จิ้นที่ต้องใช้จะเป็น $1,000 ซึ่งเท่ากับ 1% ของขนาดโพซิชั่นทั้งหมด
ในตอนนี้ เราลองมาพิจารณาถึงผลกระทบของเลเวอเรจและมาร์จิ้นต่อผลลัพธ์การเทรดของคุณ หากคุณใช้เลเวอเรจ 100:1 และคู่สกุลเงินที่คุณกำลังเทรดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณต้องการ 1% คุณจะทำกำไรได้ $1,000 ซึ่งเป็นการทำให้เงินลงทุนเพิ่มเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตาม หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ 1% คุณจะต้องขาดทุน $1,000 ส่งผลให้สูญเสียเงินทุนเริ่มแรกของคุณทั้งหมด
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเลเวอเรจและมาร์จิ้นสามารถทวีคูณทั้งกำไรและขาดทุนได้อย่างไร โดยเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ
เลเวอเรจจะส่งผลต่อผลกำไรและขาดทุนจากการเทรดได้อย่างไร
ตอนนี้เราลองมาดูอีกหนึ่งตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของเลเวอเรจที่มีต่อผลลัพธ์การเทรด
สมมติว่าคุณมีเงิน $5,000 ในบัญชีเทรดของคุณและต้องการเทรดหุ้น การใช้อัตราส่วนเลเวอเรจ 1:50 คุณจะสามารถควบคุมขนาดโพซิชั่นที่มีมูลค่า $250,000 ได้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของเลเวอเรจที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายโพซิชั่นที่ใหญ่กว่าเงินทุนที่มีอยู่ของคุณได้ อย่างไรก็ตามการเทรดโดยใช้เลเวอเรจยังเพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้อีกด้วย หากหุ้นที่คุณซื้อขายเคลื่อนไหวไปในทางที่คุณชอบ 1% คุณจะได้รับผลกำไร $2,500 ซึ่งจะคิดเป็น 50% ของเงินทุนเริ่มต้นของคุณ ในทางกลับกัน หากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ 1% คุณจะต้องขาดทุน $2,500 ซึ่งอาจทำให้เงินทุนส่วนสำคัญของคุณหายไป นี่แสดงให้เห็นว่าเลเวอเรจสามารถทวีคูณได้ทั้งผลกำไรและขาดทุนในการเทรด
เลเวอเรจประเภทต่าง ๆ ในการเทรด
อัตราส่วนเลเวอเรจอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และพื้นที่
เลเวอเรจต่ำ: เลเวอเรจต่ำหมายถึงการใช้เงินยืมจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินทุนของเทรดเดอร์ ซึ่งนี่อาจเป็นอัตราส่วนเช่น 2:1 หรือ 5:1 โดยที่สำหรับเงินทุก ๆ ดอลลาร์ของคุณเอง เทรดเดอร์สามารถยืมเงิน 2 หรือ 5 ดอลลาร์ ได้ตามลำดับ เลเวอเรจประเภทนี้ถือว่าปลอดภัยมากกว่าอัตราส่วนเลเวอเรจที่สูงกว่า เนื่องจากจะช่วยลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้
เลเวอเรจปานกลาง: อัตราส่วนเลเวอเรจปานกลางอาจอยู่ที่ประมาณ 10:1 ถึง 20:1 เลเวอเรจระดับนี้จะเพิ่มศักยภาพในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญได้ด้วยเช่นกัน นี่คือความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์นิยมและการไม่อนุรักษ์นิยม
เลเวอเรจสูง: อัตราเลเวอเรจสูงสามารถเพิ่มสูงได้ถึง 50:1, 100:1 หรือสูงกว่านั้นในบางกรณี เลเวอเรจที่สูงทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดโพซิชั่นขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นด้วยเงินในจำนวนที่น้อยกว่า แม้ว่าสิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลกำไรจำนวนมากหากตลาดเคลื่อนไหวไปในทางที่เทรดเดอร์ต้องการ แต่ก็อาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนอย่างมากได้เช่นกันหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง
เลเวอเรจแบบผันแปร: แพลตฟอร์ม CFD บางส่วนมีเลเวอเรจหลายแบบ ซึ่งหมายความว่าอัตราส่วนเลเวอเรจสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามขนาดของโพซิชั่นหรือสภาวะตลาด ความยืดหยุ่นนี้สามารถเป็นประโยชน์กับเทรดเดอร์ที่ต้องการปรับระดับความเสี่ยงตามแนวโน้มตลาดหรือตามความคืบหน้าในการเทรดของตัวเอง
เลเวอเรจคงที่: ตรงข้ามกับเลเวอเรจแบบแปรผัน เลเวอเรจคงที่จะรักษาอัตราส่วนเดิมโดยไม่คำนึงถึงขนาดโพซิชั่นหรือสภาวะตลาด สิ่งนี้ช่วยให้เกิดความชัดเจนและการคาดการณ์ได้สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการทราบว่าตัวเองใช้เลเวอเรจเท่าใดตลอดเวลา
แนวทางในการปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ใช้เลเวอเรจ
A. เริ่มต้นด้วยอัตราส่วนเลเวอเรจที่ไม่มาก
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ใช้เลเวอเรจ สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อจัดการความเสี่ยงและโอกาสอย่างมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยอัตราส่วนเลเวอเรจที่น้อย เนื่องจากมันช่วยให้สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้โดยไม่ต้องเผชิญกับการขาดทุนจำนวนมาก
B. ใช้เลเวอเรจด้วยความระมัดระวังและมีความรับผิดชอบ
การใช้เลเวอเรจควรเป็นไปอย่างระมัดระวังและมีความรับผิดชอบ โดยคำนึงถึงโอกาสในการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ
C. กำหนดคำสั่ง stop-loss เพื่อจัดการความเสี่ยง
การใช้คำสั่ง stop-loss เป็นกลยุทธ์สำคัญในการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตัดการขาดทุนได้ในระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อปกป้องเงินทุน
D. ทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเลเวอเรจและมาร์จิ้น
การใช้คำสั่ง stop-loss เป็นกลยุทธ์สำคัญในการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถตัดการขาดทุนได้ในระดับที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อปกป้องเงินทุน
เลเวอเรจและมาร์จิ้นเป็นสองด้านของเหรียญเดียวกัน เลเวอเรจจะขยายศักยภาพการลงทุนโดยใช้เงินที่ถูกยืมมา ในขณะที่มาร์จิ้นคือหลักประกันที่จำเป็นเพื่อใช้เลเวอเรจที่มีอยู่ ความสัมพันธ์ของเหล่านี้จะอยู่ที่การใช้มาร์จิ้นเพื่อให้สามารถใช้เลเวอเรจได้ โดยเพิ่มทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในตลาดการเงิน
E. ติดตามโพซิชั่นและสภาวะตลาดอย่างต่อเนื่อง
การติดตามโพซิชั่นและสภาวะตลาดของคุณอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมันจะช่วยให้คุณสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ซึ่งอาจช่วยคุณหลีกเลี่ยงการขาดทุนจำนวนมากหรือช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นใหม่ได้
บทสรุปและความคิดเห็นสุดท้าย
เลเวอเรจนั้นทรงพลัง แต่ความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในการเทรดของคุณจะทรงพลังยิ่งกว่า แม้ว่าจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่โปรดจำไว้ว่าทุกการลงทุนไม่มีการรับประกัน จงโฟกัสไปที่การเรียนรู้และให้ความรู้กับตัวคุณเองเพื่อก้าวไปสู่โลกแห่งการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ