หมายเหตุสำคัญ!
เราใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา
ด้วยการคลิกที่ ‘ตกลง’ คุณได้ยอมรับการใช้คุกกี้ของเราตามที่อธิบายไว้ใน นโยบายคุกกี้
ในขณะที่เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมและเริ่มต้นเดือนเมษายน 2568 ตลาดการเงินโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลากหลายด้านที่อาจส่งผลต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ในตลาด CFD อย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนควรจับตามองในสัปดาห์นี้คือการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 4 เมษายน ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อตลาดสูงที่สุด
ภาพรวมตลาดในช่วงที่ผ่านมายังคงแสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากแรงกดดันหลักมาจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและการปรับนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก ในสหรัฐอเมริกา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25%-4.50% ในการประชุมล่าสุด โดยประธาน Fed เจอโรม พาวเวล ยังคงเน้นย้ำว่าคณะกรรมการยังไม่เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคม ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.50% แล้ว ความแตกต่างในนโยบายการเงินนี้ได้ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในตลาด Forex
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำยังคงรักษาระดับเหนือ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริงที่ลดลง ส่วนน้ำมันดิบ Brent มีแนวโน้มปรับฐานลงสู่ระดับ 70.00 ดอลลาร์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม โดยสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมากว่า 3 ปี และความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังไม่มีทีท่าจะยุติ ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดได้อย่างฉับพลัน
สำหรับเทรดเดอร์ในตลาด CFD ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ การติดตามเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้จะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราจะมาวิเคราะห์รายละเอียดของเหตุการณ์เหล่านี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสินทรัพย์ประเภทต่างๆ พร้อมทั้งนำเสนอกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมสำหรับสภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นที่การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
ในช่วงสัปดาห์ที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2025 มีเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจสำคัญมากมายที่เทรดเดอร์ควรติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่มีผลกระทบสูงต่อตลาด CFD ทั้งในตลาด Forex สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีหุ้น รายการด้านล่างแสดงเหตุการณ์เศรษฐกิจที่สำคัญเรียงตามวัน โดยระบุเวลาในรูปแบบ GMT+7 พร้อมทั้งข้อมูลตัวเลขครั้งก่อนหน้า (Previous) และตัวเลขคาดการณ์ (Forecast) เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
07:00 น. – ยอดค้าปลีกเยอรมนี (MoM) (ก.พ.)
08:00 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (มี.ค.)
08:00 น. – ดัชนี PMI ภาคบริการของจีน (มี.ค.)
13:00 น. – อัตราเงินเฟ้อเยอรมนี (MoM) (มี.ค.) [ประมาณการเบื้องต้น]
13:00 น. – อัตราเงินเฟ้อเยอรมนี (YoY) (มี.ค.) [ประมาณการเบื้องต้น]
19:30 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิกจาก Chicago Fed (มี.ค.)
06:01 น. – ดัชนีราคาร้านค้า BRC สหราชอาณาจักร (YoY)
06:30 น. – อัตราการว่างงานของญี่ปุ่น (ก.พ.)
06:50 น. – ดัชนี Tankan ภาคการผลิตของญี่ปุ่น
06:50 น. – ดัชนี Tankan ภาคบริการของญี่ปุ่น
07:30 น. – ยอดค้าปลีกออสเตรเลีย (MoM)
07:30 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่น [ค่าสุดท้าย]
08:45 น. – ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน
10:30 น. – อัตราดอกเบี้ยนโยบาย RBA ออสเตรเลีย
11:30 น. – แถลงการณ์ RBA ออสเตรเลีย
12:30 น. – ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ออสเตรเลีย (YoY)
13:00 น. – ดัชนีราคาบ้าน Nationwide สหราชอาณาจักร (MoM)
13:30 น. – ยอดค้าปลีกสวิตเซอร์แลนด์ (YoY)
14:15 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสเปน
14:30 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสวิตเซอร์แลนด์
14:45 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอิตาลี
14:50 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของฝรั่งเศส [ค่าสุดท้าย]
14:55 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนี [ค่าสุดท้าย]
15:00 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน [ค่าสุดท้าย]
15:00 น. – อัตราการว่างงานของอิตาลี
15:30 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร [ค่าสุดท้าย]
16:00 น. – อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของยูโรโซน (YoY) [ประมาณการเบื้องต้น]
16:00 น. – อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน (YoY) [ประมาณการเบื้องต้น]
16:00 น. – อัตราการว่างงานของยูโรโซน
19:30 น. – การกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน ECB Lagarde
20:00 น. – การกล่าวสุนทรพจน์ของสมาชิก FOMC Barkin
20:30 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของแคนาดา
20:45 น. – ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ [ค่าสุดท้าย]
21:00 น. – ดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐฯ
21:00 น. – JOLTS Job Openings สหรัฐฯ
21:00 น. – ดัชนีราคา ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ
21:00 น. – ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯ (MoM)
07:30 น. – อัตราการว่างงานของญี่ปุ่น (ก.พ.)
16:00 น. – อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน (YoY) (มี.ค.) [ประมาณการเบื้องต้น]
16:00 น. – อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของยูโรโซน (YoY) (มี.ค.) [ประมาณการเบื้องต้น]
19:15 น. – รายงานการจ้างงานภาคเอกชน ADP ของสหรัฐฯ (มี.ค.)
21:30 น. – รายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ จาก EIA
07:30 น. – ดัชนี PMI ภาคบริการของญี่ปุ่น (มี.ค.) [ค่าสุดท้าย]
14:30 น. – ดัชนี PMI ภาคบริการของสหราชอาณาจักร (มี.ค.) [ค่าสุดท้าย]
19:30 น. – จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
19:30 น. – ดุลการค้าสหรัฐฯ (ก.พ.)
20:45 น. – ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ (มี.ค.) [ค่าสุดท้าย]
21:00 น. – ดัชนี ISM ภาคบริการของสหรัฐฯ (มี.ค.)
21:00 น. – คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ (ก.พ.)
19:30 น. – รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payrolls) ของสหรัฐฯ (มี.ค.)
19:30 น. – อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ (มี.ค.)
19:30 น. – รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (YoY) (มี.ค.)
19:30 น. – รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ (MoM) (มี.ค.)
หมายเหตุเพิ่มเติม: นอกจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่ระบุข้างต้น เทรดเดอร์ควรทราบว่าจะมีการปรับพิเศษสวอปดัชนี CFD ในช่วงวันที่ 1-3 เมษายน 2568 ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนการถือครองสถานะข้ามคืน โดยเฉพาะในดัชนี HK50 (Long: -12.5 pip/วัน, Short: +8.2 pip/วัน) และ US500 (Long: -7.3 pip/วัน, Short: +5.1 pip/วัน) ดังนั้นควรตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมกับแพลตฟอร์มการเทรด FXGT ก่อนดำเนินการเทรด
การติดตามตารางเหตุการณ์เศรษฐกิจเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนการเทรดล่วงหน้าและเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงประกาศตัวเลขสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่มักจะสร้างความผันผวนในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ การเปรียบเทียบตัวเลขจริงกับตัวเลขคาดการณ์จะช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินผลกระทบและปรับกลยุทธ์การเทรดได้อย่างทันท่วงที
ในสัปดาห์ที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2568 มีเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญหลายรายการที่จะส่งผลกระทบต่อตลาด CFD ในมิติต่างๆ การวิเคราะห์เชิงลึกของแต่ละเหตุการณ์จะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมกลยุทธ์การเทรดรองรับได้อย่างเหมาะสม
ตัวเลข PMI ของจีนนับเป็นข้อมูลสำคัญที่จะสะท้อนสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยคาดการณ์ว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจาก 50.5 เป็น 50.2 และภาคบริการจะลดลงจาก 50.8 เป็น 50.4 แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัว แต่การชะลอตัวลงอาจสะท้อนถึงความท้าทายที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซา
ผลกระทบต่อตลาด: หากตัวเลขจริงต่ำกว่าคาดการณ์และลงต่ำกว่า 50 อาจส่งผลลบต่อสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับจีน เช่น AUD และ NZD รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองแดงและแร่เหล็ก ในทางกลับกัน หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดการณ์ อาจเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียและดัชนี HK50 CFD
เยอรมนีเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยูโรโซน และตัวเลขเงินเฟ้อของประเทศนี้มักจะเป็นตัวชี้นำสำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อในยุโรป คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงจาก 3.3% เป็น 2.9% ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ ECB ในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ผลกระทบต่อตลาด: การลดลงของอัตราเงินเฟ้อตามคาดอาจส่งผลให้ยูโรอ่อนค่าลงในระยะสั้น เนื่องจากตลาดอาจคาดการณ์ถึงการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจาก ECB อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์ อาจทำให้ยูโรแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเพิ่มความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ดัชนี EU50 CFD อาจมีความผันผวนสูงหลังการประกาศตัวเลขนี้
ดัชนี ISM ภาคการผลิตเป็นตัวชี้วัดสำคัญของภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ โดยคาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 47.8 เป็น 49.6 ในเดือนมีนาคม แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์ยังคงต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัว แต่การฟื้นตัวขึ้นอาจสะท้อนถึงสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นของภาคการผลิตสหรัฐฯ
ผลกระทบต่อตลาด: หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดการณ์และสูงกว่า 50 อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอาจส่งผลบวกต่อดัชนี US500 CFD ในทางกลับกัน หากตัวเลขต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ อาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ และส่งผลลบต่อดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
รายงาน ADP มักถูกมองว่าเป็นตัวชี้นำสำหรับรายงาน Non-Farm Payrolls ที่จะประกาศในวันศุกร์ โดยคาดการณ์ว่าการจ้างงานภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้น 160,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจาก 140,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ผลกระทบต่อตลาด: ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกว่าคาดอาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากอาจลดความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในขณะที่ตัวเลขที่อ่อนแอกว่าคาดอาจส่งผลตรงกันข้าม คู่เงิน EUR/USD และ GBP/USD อาจเกิดความผันผวนสูงหลังการประกาศตัวเลขนี้
ตลาดคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ จะลดลง 0.8 ล้านบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า การลดลงของสต็อกน้ำมันดิบมักบ่งชี้ถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน
ผลกระทบต่อตลาด: หากสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent CFD ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลบวกต่อสกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน เช่น CAD และ NOK ในทางกลับกัน หากสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ อาจกดดันราคาน้ำมันและส่งผลลบต่อสกุลเงินดังกล่าว
ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ดัชนี ISM ภาคบริการเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพเศรษฐกิจโดยรวม คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 52.6 เป็น 52.8 ในเดือนมีนาคม ซึ่งยังคงอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในภาคบริการ
ผลกระทบต่อตลาด: หากตัวเลขออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลบวกต่อดอลลาร์สหรัฐและดัชนี US500 CFD ในขณะที่ตัวเลขที่อ่อนแอกว่าคาด โดยเฉพาะหากต่ำกว่า 50 อาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง
รายงาน NFP เป็นหนึ่งในตัวเลขเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อตลาดมากที่สุด โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน 200,000 ตำแหน่ง ลดลงจาก 275,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า อัตราการว่างงานคาดว่าจะคงที่ที่ 3.9% ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% MoM หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก่อนหน้า
ผลกระทบต่อตลาด: รายงาน NFP มักสร้างความผันผวนอย่างมากในตลาดการเงิน โดยเฉพาะในตลาด Forex และดัชนีหุ้น หากตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างออกมาแข็งแกร่งกว่าคาดการณ์ อาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจกดดันราคาทองคำ ในทางกลับกัน หากตัวเลขอ่อนแอกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ อาจเพิ่มความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดมีความสำคัญอย่างยิ่งในสัปดาห์ที่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการ ตัวอย่างความสัมพันธ์ที่ควรติดตาม ได้แก่:
กลยุทธ์การเทรดที่อาจพิจารณาใช้ในสัปดาห์นี้ ได้แก่:
การเข้าใจผลกระทบของแต่ละเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญและความสัมพันธ์ระหว่างตลาดต่างๆ จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง การติดตามการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลเศรษฐกิจและปรับกลยุทธ์อย่างทันท่วงทีเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรด CFD ในสัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2568 นับเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ในตลาด CFD เนื่องจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการที่อาจส่งผลต่อทิศทางของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน ที่มักจะสร้างความผันผวนสูงให้กับตลาดการเงินทั่วโลก
สัปดาห์ที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2568 จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายและเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับเทรดเดอร์ในตลาด CFD เนื่องจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการที่อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนสูงในตลาด การเข้าใจผลกระทบของแต่ละเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างตลาดต่างๆ จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวางแผนกลยุทธ์การเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
ในภาพรวม ตลาด Forex ยังคงมีแนวโน้มที่ดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ อันเนื่องมาจากความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างธนาคารกลางหลัก ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงรักษาระดับเหนือ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในฐานะเครื่องป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบอาจเผชิญกับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
สำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ การติดตามข่าวสารและตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานร่วมกัน และการให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเทรด CFD ในสัปดาห์นี้และต่อไปในอนาคต