สัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจท่ามกลางผลประกอบการและตัวชี้วัดที่อ่อนแอ

รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังล่าสุดจากบริษัทสำคัญ ตลอดจนตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอบ่งบอกถึงการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ตลาดหุ้นปรับตัวลง 4% ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมและหุ้นของ Tesla ร่วงลง 12% PMI ภาคการผลิตและยอดขายบ้านหลังใหม่ยังต่ำกว่าความคาดหวังของนักวิเคราะห์ด้วย

PMI ภาคการผลิตของสหรัฐอเมริการ่วงลงจาก 51.6 ในเดือนมิถุนายนเป็น 49.5 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวลงในสภาวะธุรกิจภายในภาคส่วนการผลิตสินค้านับตั้งแต่เดือนธันวาคม ในขณะเดียวกัน ความซบเซาในยอดขายบ้านนั้นก็มีสาเหตุมาจากอัตราการจำนองที่สูง

เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบสูง
วันพฤหัสบดี เวลา 08:30 น. (GMT+0) – เยอรมนี: บรรยากาศทางธุรกิจจาก Ifo (EUR)
วันพฤหัสบดี เวลา 08:30 น. (GMT+0) – สหรัฐอเมริกา: GDP เทียบรายไตรมาส (USD)
วันพฤหัสบดี เวลา 12:30 น. (GMT+0) – สหรัฐอเมริกา: ยอดขายสินค้าคงทนพื้นฐานเทียบรายเดือน (USD)
วันศุกร์ เวลา 12:30 น. (GMT+0) – สหรัฐอเมริกา: ดัชนีราคา PCE พื้นฐานเทียบรายเดือน (USD)

นับตั้งแต่ที่ดีดตัวขึ้นจาก 4296.95 ในวันที่ 19 เมษายน S&P 500 ก็ปรับตัวขึ้น สร้างระดับสูงสุดและต่ำสุดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไปแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5674.14 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากผลประกอบการของบริษัทที่ซบเซาได้ปรากฏชัดเจนในกราฟราคาในวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งนำไปสู่การพลิกกลับขาลงที่รู้จักกันในชื่อ การสวิงล้มเหลว ในบทวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระดับสูงสุดที่ 5588.75 ไม่สามารถทะลุผ่านระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 5674.14 ได้ และด้วยเหตุนี้ ราคาจึงร่วงลงมาต่ำกว่า 5498.59 ซึ่งบ่งชี้ถึงการสวิงที่ล้มเหลว ทั้งเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) ช่วง 50 และ Momentum oscillator ต่างก็สนับสนุนแนวโน้มขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่ร่วงลงมาต่ำกว่า EMA และ Momentum oscillator กำลังบันทึกค่าไว้ต่ำกว่าเส้นพื้นฐาน 100

หากผู้ซื้อยึดการควบคุมตลาดได้นักเทรดอาจมุ่งความสนใจไปยังระดับแนวต้านที่เป็นไปตามทั้งสี่ระดับด้านล่างนี้:

5498.59: มีการกำหนดระดับแนวต้านแรกที่ 5498.59 ซึ่งทับซ้อนกับระดับต่ำสุดของการสวิงล้มเหลวที่เกิดขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม และ Fibonacci Retracement 23.6% ของการปรับขึ้นครั้งล่าสุด
5588.75: แนวต้านที่สองอยู่ที่ 5588.756 ซึ่งสอดคล้องกับระดับสูงสุดของการสวิงล้มเหลว
5674.14: ระดับแนวต้านเพิ่มเติมอยู่ที่ 5674.14 ซึ่งตรงกับระดับสูงสุดตลอดกาลในวันที่ 16 กรกฎาคม
57.36.15: เป้าหมายราคาที่สี่อยู่ที่ระดับแนวต้าน R2 ตามที่คำนวณโดยใช้วิธีการ Pivot Point รายสัปดาห์

หากผู้ขายรักษาการควบคุมตลาดเอาไว้ได้นักเทรดอาจต้องพิจารณาระดับแนวรับที่เป็นไปได้สี่ระดับด้านล่างนี้:

5383.44: เป้าหมายขาลงหลักอยู่ที่ 5383.44 ซึ่งแสดงถึง Fibonacci Retracement 38.2% ที่คำนวณจากระดับต่ำสุดที่ 4926.95 ถึงสูงสุดที่ 5674.14
5209.12: ระดับแนวรับที่สองอยู่ที่ 5209.12 ซึ่งสอดคล้องกับ Fibonacci Retracement 61.8% ของการปรับตัวขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ที่เริ่มต้นในวันที่ 19 เมษายน
5124.10: เส้นแนวรับที่สามอยู่ที่ 5124.10 ซึ่งสอดคล้องกับระดับสูงสุดที่บันทึกเอาไว้ในวันที่ 29 เมษายน
4926.95: นี่คือระดับแนวรับเพิ่มเติมที่ตรงกับจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้นในวันที่ 19 เมษายน

ตลาดที่ปรับตัวลง 4% นับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากผลประกอบการบริษัทที่ย่ำแย่และตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอได้ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่อาจเกิดขึ้น การร่วงลงของหุ้น Tesla 12%, การหดตัวใน PMI ภาคการผลิตและยอดขายบ้านที่ซบเซาเนื่องจากอัตราการจำนองสูงมีส่วนทำให้เกิดแนวโน้มขาลง
บทวิเคราะห์ทางเทคนิคแสดงให้เห็นถึงการพลิกกลับขาลงใน S&P 500 ที่ได้รับแรงหนุนจาก EMA ช่วง 50 และ Momentum oscillator ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญจะชี้นำนักเทรดท่ามกลางความผันผวนปัจจุบัน