AUDUSD แข็งค่าขึ้นจากนโยบายที่แตกต่างและการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

AUDUSD แสดงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมจากสัญญาณ “Golden Cross” และตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เป็นบวก การตัดสินใจของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.35% เป็นแรงหนุนให้กับดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่การลดอัตราดอกเบี้ย 50 Basis point ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนล่าสุดได้เพิ่มการมองในแง่ดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก เป็นแรงหนุนให้กับ AUD ยิ่งขึ้น ระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญมีเป้าหมายที่เป็นไปได้คือ 0.69461, 0.71457 และ 0.74686

การตัดสินใจด้านนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้เกิดผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราแลกเปลี่ยน AUDUSD การตัดสินใจของ RBA ในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.35% สะท้อนถึงท่าทีที่ระมัดระวัง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากทำให้นักลงทุนมั่นใจในผลตอบแทนที่คงที่ของ AUD
ในทางกลับกัน การตัดสินใจของ Fed ในการลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 Basis point มีผลกระทบอย่างมากต่ออัตราแลกเปลี่ยน AUDUSD การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ทำให้ผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง ทำให้สินทรัพย์เหล่านั้นมีความน่าสนใจน้อยลงสำหรับนักลงทุนทั่วโลก ดังนั้น AUDUSD มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงแรกหลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงและเสน่ห์ของสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่มีเสถียรภาพของออสเตรเลีย
นักลงทุนอาจมองการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งสำคัญของ Fed เป็นสัญญาณของความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา สิ่งนี้สามารถทำให้อัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์ออสเตรเลียเทียบกับดอลลาร์สหรัฐสูงขึ้นอย่างยั่งยืน

ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) มีความสัมพันธ์เป็นอย่างมากกับผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของจีนเนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่ง จีนเป็นปลายทางการส่งออกที่สำคัญสำหรับออสเตรเลีย ซึ่งจัดหาวัตถุดิบ เช่น แร่เหล็กและถ่านหิน เมื่อเศรษฐกิจของจีนเติบโต อุปสงค์ต่อทรัพยากรเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นทำให้ AUD แข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน การถดถอยทางเศรษฐกิจของจีนสามารถทำให้ AUD อ่อนค่าลง เนื่องจากความต้องการสินค้าส่งออกที่ลดลงส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจออสเตรเลีย

ในเดือนสิงหาคม 2024 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่งเป็นการชะลอตัวของอัตราการเพิ่มขึ้นที่ 3.5% ในเดือนกรกฎาคม ค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย (+2.6%) อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ (+3.4%) และแอลกอฮอล์และยาสูบ (+6.6%) เป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของเงินเฟ้อ ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งลดลง 1.1% โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะค่าไฟฟ้าลดลง 17.9% จากการคืนเงินให้ของรัฐบาล ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์ลดลง 7.6% ทำให้แรงกดดันต่อภาคการขนส่งลดลง แม้จะเริ่มลดลง แต่ค่าเช่าและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยใหม่ยังคงเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความท้าทายที่เกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังคงอยู่ การลดลงของเงินเฟ้อดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตรงกันข้ามกับการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ ที่มีเป้าหมายเพื่อผ่อนคลายแรงกดดันทางเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางจีนเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ เพื่อป้องกันการเกิดวงจรเงินฝืดในเศรษฐกิจของประเทศ นโยบายนี้ประกอบด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มเงินสดให้กับธนาคาร สิทธิประโยชน์ในการซื้อบ้าน และแผนที่อาจเกิดขึ้นสำหรับกองทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพของหุ้น มาตรการดังกล่าว ซึ่งประกาศในงานแถลงข่าวระดับสูง ได้ทำให้เกิดปฏิกิริยาเชิงบวกในตลาด โดยหุ้นจีนมีการขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020
แม้จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบชั่วคราวนี้ แต่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้เป็นเพียงทางออกระยะสั้น และจำเป็นต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อแก้ไขความท้าทายทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงภาวะตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยาวนาน ราคาผู้บริโภคที่อ่อนแอ และความตึงเครียดทางการค้าของโลก แม้ว่าจะช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง แต่ก็ไม่น่าจะสามารถพลิกฟื้นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ หากไม่มีความพยายามที่เป็นกิจลักษณะมากกว่านี้ในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและการปฏิรูปเศรษฐกิจ
ความเร่งด่วนของสถานการณ์มีการเน้นย้ำด้วยข้อเท็จจริงที่ว่ามีการนำมาตรการมาปฏิบัติอย่างเร่งด่วนหลังจากมีความกังวลว่าจีนอาจพลาดเป้าหมายการเติบโตรายปี แม้ว่าผลกระทบที่เกิดทันทีจะทำให้ตลาดฟื้นตัว แต่หลายคนเชื่อว่าปัญหาทางเศรษฐกิจระยะยาวยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจำเป็นต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันภาวะถดถอยที่ยาวนาน

คู่สกุลเงิน AUDUSD มีแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม หลังจากรีบาวด์จากจุดต่ำสุดที่ 0.63474 แนวโน้มขาขึ้นเร่งตัวขึ้นในวันที่ 21 สิงหาคมด้วยสัญญาณ “Golden Cross” เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) 20 วัน ข้ามเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล (EMA) 50 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้การกลับตัวเป็นขาขึ้น การเกิดสัญญาณนี้ร่วมกับการกลับตัวของสวิงที่ล้มเหลวได้เตรียมพร้อมคู่เงินสำหรับการแข็งค่าขึ้นต่อไป จากการใช้ Fibonacci Retracement จากสวิงไฮที่ 0.68228 ไปที่สวิงโลว์ที่ 0.66209 ทำให้เป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 0.69461, 0.71457 และ 0.74686 ซึ่งบ่งชี้ถึงระดับในขาขึ้นที่อาจเกิดขึ้นได้

โดยสรุป AUDUSD แสดงให้เห็นถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งซึ่งเกิดจากปัจจัยสำคัญต่างๆ เช่น การตัดสินใจของธนาคารกลางออสเตรเลียในการคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.35% การลดอัตราดอกเบี้ย 50 Basis point ของธนาคารกลางสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีน แม้ว่าสัญญาณทางเทคนิค เช่น “Golden Cross” จะชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่จะแข็งค่าขึ้นต่อไป แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อทิศทางอนาคตของดอลลาร์ออสเตรเลีย เทรดเดอร์ยังควรระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ขณะที่เฝ้าติดตามระดับสำคัญสำหรับโอกาสที่อาจเกิดขึ้นในอัตราแลกเปลี่ยน AUDUSD